สภาคองเกรส อนุมัติ เงินเยียวยา โควิด-19 26 ล้านล้านบาท

สภาคองเกรส อนุมัติ เงินเยียวยา โควิด-19 26 ล้านล้านบาท

สื่อต่างประเทศรายงานว่า สภาคองเกรส ในประเทศสหรัฐฯ ได้ อนุมัติ เงินเยียวยา โควิด-19 มูลค่า 26 ล้านล้านบาท แล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า สภาคอนเกรสได้อนุมัติเงินเยียวยาโควิด-19 ให้กับประชาชนชาวสหรัฐฯ มูลค่า 26 ล้านล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทางการสหรัฐฯถกเถียงถึงเงินเยียวยาก้อนดังกล่าวนานหลายเดือน

โดยมาตรการเยียวยาใหม่นี้จะจ่ายเงินโดยตรงให้กับประชาชนชาวสหรัฐฯให้ครอบครัวในสหรัฐฯ ราวๆ 18,000 บาทต่อสัปดาห์ 

ซึ่งจำนวนเงินอาจเพิ่มขึ้นตามจำนวนสมาชิกครอบครัว ซึ่งมาตรการใหม่นี้จะช่วยจ่ายเงินให้กับประชาชนที่ตกงานอีกราวๆ 9,000 บาทต่อสัปดาห์อีกด้วย นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวจะยังช่วยเหลือกิจการขนาดเล็ก, โรงเรียน และ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ชาวอเมริกันสามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการมอบเงินเยียวยาให้กับประชาชน โดยในช่วงเดือนมีนาคม และ เดือนกรกฎาคม ทางการสหรัฐฯ ได้ทุ่มงบประมาณไปหลายล้านล้านบาท เพื่อเยียวยากิจการต่างๆ และครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ทั้งนี้มาตรการเงินเยียวยาต่างๆจะสิ้นสุดลงสิ้นเดือนนี้

ซึ่งกระบวนการต่อไปคือการส่งร่างฉบับนี้ไปให้นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนามอนุมัติ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯจะเซ็นร่างฉบับดังกล่าว

สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ทำการ อนุมัติ วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนต้านโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดบางประเทศอาจเริ่มแจกจ่ายวันอาทิตย์นี้

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม สำนักข่าว BBC ของประเทศอังกฤษรายงานว่า องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ได้อนุมัติใช้วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนต้านโควิด-19 และเตรียมเริ่มใช้กับประเทศสมาชิกในบางประเทศในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เลวร้ายลง

ซึ่ง EMA เคยระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการต้านโรคโควิด-19 ราวๆ 95% กับประชาชนในช่วงอายุ 16 ปี และมากกว่า ซึ่งประธานกรรมการบริหารของ EMA ได้ยืนยันว่าวัคซีนชนิดนี้จะช่วยให้ประชาชนในกลุ่มประเทศ EU ปลอดภัย อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเพื่อวิจัยเพิ่มเติม เพื่อปกป้องประชาชนที่ฉีดวัคซีนต่อไป

โดยจำนวนประชากรภายในประเทศสมาชิก EU รวมแล้วมีเกือบ 450 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสภายในกลุ่มประเทศสมาชิกแล้วมากกว่า 3 แสนศพ

หุ้น ดาวโจนส์ ปิดตัวบวก รับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของ สหรัฐ

วอลล์สตรีท ปิดตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยมีเพียงแค่ หุ้น ดาวโจนส์ ที่ปิดตัวเป็นบวก โดยเพิ่มขึ้นมา 37.4 จุด ทางด้านตัวอื่น ๆ นั้นปิดตัวเป็นลบ คาดว่าเป็นการตอบรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ สหรัฐ และความยังระแวงของการแพร่ระบาดในหลายประเทศ

ดาวโจนส์วันนี้ – ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ได้ปิดตัวลงไปเมื่อคืนแบบกวัดแกว่ง โดยมีเพียงแค่ หุ้น ดาวโจนส์ เท่าที่ปิดตัวเป็นบวก ในส่วนของ S&P500 และ Nasdaq นั้นปิดตัวเป็นลบ เช่นเดียวกับราคาทองและน้ำมันที่ส่วนทางกันด้วยเช่นกัน โดยเป็นการตอบรับการมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของทาง สหรัฐ แต่เนื่องการแพร่ระบาดที่เริ่มกลับมาในหลายประเทศทำให้ยังมีการชะงักในการลงทุนบางส่วนอยู่บาง

ในส่วนของราคาทองคำ สหรัฐ โดยรวมนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา 5.80 จุด โดยคิดเป็นอัตราอยู่ที่ 0.31% ส่งผลในมูลค่าโดยรวมอยูที่ 1,888.70 ดอลลาร์ ส่วนทางกับราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งราคาโดยรวมนั้นอยู่ที่ 47.79 ดอลลาร์ โดยมีการลดลงไป -1.31 จุด คิดเป็นอัตราอยู่ที่ -2.67%

ทั้งนี้แล้วการกวัดแกว่งของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่ามากจาก มาตราการกระตุ้นเศราบกิจของสหรัฐที่เพิ่งได้มีการดำเนินไป ภายใต้งบประมาณ 9 แสนล้านดอลลาร์ จะช่วยให้เศรษฐกิจนั้นสามารถพยุงตัวอยู่ได้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในขณะที่ก็ยังคงมีความกังวลเกิดขึ้นเนื่องจากแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นเป็นระลอกที่ 2 ในหลายประเทศ และการค้นพบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ประเทศอังกฤษ

ส่งผลหุ้นบางตัวที่ถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงนั้น ได้รับการเทขายออกไป และนักลงทุนก็ได้มีความพยายามในการลงทุนบนหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงอย่างทองคำมากขึ้นด้วย

ขอให้ทางผู้ผลิตหรือจัดจำหน่ายสาย Ensave หยุดอ้างผลวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุการและแผ่ปริมาณรังสีที่ สทน.ออกผลวิเคราะห์ให้ เนื่องจากไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติที่ทางบริษัทฯ นำไปใช้ในการจำหน่ายสินค้า เนื่องจากจะทำให้คนเข้าใจผิดและตีความไปว่า สทน. รับเรื่องการประหยัดพลังงาน สำหรับโกดังหรือสถานที่จัดเก็บสินค้านี้ในปริมาณมากๆ อาจจะมีปริมาณรังสีสูง ผู้ที่ดูแลต้องระมัดระวังการได้รับปริมาณรังสีที่เกินค่ามาตรฐานโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป