บขส. คุมเข้มการเดินทางช่วง เทศกาลปีใหม่ 2565

บขส. คุมเข้มการเดินทางช่วง เทศกาลปีใหม่ 2565

บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คุมเข้มเดินทางช่วง เทศกาลปีใหม่ 2565 ออกมาตรการความปลอดภัยรถโดยสารเพิ่ม และพร้อมสุ่มตรวจ ATK หาเชื้อ COVID-19 ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเมื่อวานนี้ (29 ธันวาม 2564) นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยข้อมูลการเดินทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประจำปี 2565 (เทศกาลปีใหม่ 2565) ว่า เมื่อวานนี้ (28 ธันวาคม 2564) บขส. ได้จัดรถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) ให้บริการในเที่ยวขาไป – ขากลับ จำนวน 5,122 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 48,768 คน

ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 60,000 คน 

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข และดำเนินการตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บขส. พร้อมทำตามมาตรการป้องกัน ด้วยการสุ่มตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK กับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา

โดย บขส. ได้รับการสนับสนุนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นำรถโมบายเคลื่อนที่พระราชทาน มาตรวจคัดกรองเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2564 และวันที่ 1 – 3 มกราคม 2565 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณประตูทางเข้า ชั้น 1 และ 3 ด้านหน้าอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร)

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวเพิ่มเติมว่า บขส.ได้ออกประกาศมาตรการความปลอดภัยในการเดินรถและการป้องกันอุบัติเหตุจากเพลิงไหม้รถยนต์โดยสาร เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการรถร่วมฯ และเจ้าของรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง ถือปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร

โดยรถโดยสารทุกคันที่วิ่งให้บริการต้องแสดงเอกสารรับรองผ่านการตรวจสภาพที่กระจกหน้ารถ และรถโดยสารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ บขส. ต้องผ่านการตรวจความพร้อมก่อนให้บริการ ตามแบบการตรวจความพร้อม (Check List) ทุกครั้ง รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขณะเดินรถ ให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ และเปลี่ยนรถคันใหม่มาให้บริการ

อย่างไรก็ดี บขส. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ทุกราย ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยนำมาตรการ 4 พร้อม คือ สถานีพร้อม พนักงานพร้อม รถโดยสารพร้อม และการบริการพร้อม มาใช้ควบคู่กัน

และขอความร่วมมือผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการที่สถานีขนส่ง และบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง รวมทั้งให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะหรือแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้งที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและที่สถานีขนส่งผู้โดยสารด้วย

เติมสินค้า อยู่ดีๆ โดนต่อย เด็กฝึกงาน อึ้ง! ถูกทำร้ายทั้งที่ไม่รู้จัก

เด็กฝึกงาน ดวงไม่ดี เติมสินค้าอยู่ดีๆ โดนต่อย หลังถูกชายแปลกหน้า เดินเข้ามาชก จำนวน 3 ครั้ง แล้วเดินออกจาก ร้านไปโดยบอกว่าจะกลับมาอีก เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3 โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ที่มีชายเข้ามาทำร้ายร่างกายเด็กฝึกงาน ถึงในร้าน โดยที่ไม่เคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน และก็ไม่รู้จักคู่กรณีด้วย

โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “#เล่าเรื่องจากหลังไมค์ จะมีเหตุมีปมหรือไม่ แต่คุณเข้ามาทำร้ายน้องแบบนี้ไม่ได้ น้องแค่มาฝึกงาน ช่างอุกอาจมาก จนท.ตร.ในพื้นที่ไล่กล้องคงไม่ยากที่จะตามจับตัว จริงไหม”

“ช่วยทีครับแอด ตอนนี้คนในร้านกลัวมากไม่รู้ว่าคนร้ายจะมาอีกตอนไหน วันที่ 29 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 10.28 น. นักเรียนปวช.1 เป็นนักเรียนทวิภาคีของ วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งอยู่ในช่วงฝึกงาน ณ ร้าน 7-11 สาขา ถนนสุทธิสาร วินิจฉัยจุด 2 กำลังเติมสินค้าหน้าตู้แช่เย็น”

“ต่อมาได้มีชาย ไม่ทราบชื่อสกุล ใส่เสื้อสีฟ้ากางเกงสีดำ เดินเข้ามาในร้านพร้อม หมวกกันน๊อค แล้วตรงเข้ามาที่นักเรียนยืนอยู่ แล้วต่อยไปที่หน้านักเรียนจำนวน 3 ครั้ง แล้วเดินออกจาก ร้านไปโดยบอกว่าจะกลับมาอีก”

“โดยขึ้นรถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ทราบทะเบียน ขับหลบหนีไป ซึ่งคนในร้านไม่มีใครคุ้นหน้าชายคนนี้ และยังไม่ทราบสาเหตุการกระทำของคนร้าย เบื้องต้นได้แจ้งความไปที่ สน.สุทธิสาร แล้ว แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้”

จากข้อมูลการศึกษาดังกล่าว ขณะนี้กำลังเตรียมการศึกษาทางคลินิกเพิ่มเติม ผลที่ได้นี้จะทำให้ลดการใช้ mRNA เข็มที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนที่สำคัญ คือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยที่บางประเทศให้ความสำคัญถึงกับแนะนำให้ฉีดวัคซีน mRNA เพียงเข็มเดียว ในผู้ที่มีอายุน้อย โดยเฉพาะต่ำกว่า 29 ปีลงมา

ในอนาคตเมื่อวัคซีนมากพอ และเหลือเฟือ สูตรต่างๆจะเป็นทางเลือก โดยเฉพาะการให้วัคซีนในผู้ชายที่มีอายุน้อย ตามความสมัครใจ

ด้าน นางมธุรส คุ้มประสิทธิ์ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังมีคำสั่งให้รื้อถอนรั้ว ทุกๆ วันชาวบ้านจะมารวมตัวกันรอดูการรื้อถอนแนวรั้ว ส่วนเรื่องความเสียหายของบ้าน พบว่าทางจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบว่ามีหลังไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างกำแพง ซึ่งก็ต้องการให้เจ้าของที่ดินรับผิบชอบส่วนนี้ด้วยเช่นกัน

Credit : emediaworld.net pumahawk.net awecreative.net awesomeology.org iawmontreal.org